--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปการเรียนที่ได้รับ
ที่เพื่อนและอาจารย์นำเสนอ
2. ระบบการเรียนการสอนของนิร์ค และเยนตรี (Knirk; & Gentry. 1971)
3. การเรียนการสอนของซีลสและกลาสโกว (Seels & Glasgow Model)
4. ระบบการเรียนการสอนของ(Robert Gange Model)
ระบบการเรียนการสอนของคลอสเมียร์และริปเปิล (Klausmeier & Ripple Model)
ได้กำหนดองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนไว้ 7 ส่วน คือ1) การกำหนดจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน คือ จุดที่ต้องพยายามไปให้ถึงเป็นสิ่งที่หวังไว้ในอนาคต เป็นเครื่องบอกทิศทางให้ผู้ทำงานอย่างหนึ่งพยายามไปให้ถึงจุดนั้น เปรียบเสมือนผู้กำหนดทิศทาง ดังนั้นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาจึงเป็นการกำหนดทิศทางของกิจกรรมทางการศึกษาให้ได้ดังที่พึงประสงค์ไว้
2) การพิจารณาความพร้อมของผู้เรียน การสังเกตความพร้อมของผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้เรียนว่าจะมีความสนใจและพร้อมในการเรียนรู้ของหลักวิชานั้นๆ
3) การจัดเนื้อหาวิชา วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ความตั้งใจของนักเรียนและครู ครูต้องเตรียมการสอนล่วงหน้า ทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ใบงาน ใบความรู้และกิจกรรมเสริม ตามที่คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมกำหนด รวมทั้งมอบหมายงานให้นักเรียนเตรียมพร้อมในการเรียนครั้งต่อไป
4) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเกิดขึ้นจากพื้นฐานความเชื่อที่ว่า การจัดการศึกษามีเป้าหมายสำคัญที่สุด คือ การจัดการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนแต่ละคนได้พัฒนาตนเองสูงสุด ตามกำลังหรือศักยภาพของแต่ละคน แต่เนื่องจากผู้เรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งด้านความต้องการ ความสนใจ ความถนัด และยังมีทักษะพื้นฐานอันเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการเรียนรู้ อันได้แก่ ความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน ความสามารถทางสมอง ระดับสติปัญญา และการแสดงผลของการเรียนรู้ออกมาในลักษณะที่ต่างกัน จึงควรมีการจัดการที่เหมาะสมในลักษณะที่แตกต่างกัน ตามเหตุปัจจัยของผู้เรียนแต่ละคน และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในกลไกของการจัดการ นี้คือ ครู แต่จากข้อมูลอันเป็นปัญหาวิกฤตทางการศึกษา และวิกฤตของผู้เรียนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ครูยังแสดงบทบาทและทำหน้าที่ของตนเองไม่เหมาะสม จึงต้องทบทวนทำความเข้าใจ ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการศึกษาและวิกฤตของผู้เรียนต่อไป
5) การดำเนินการสอน เป็นการเรียนการสอนที่ผู้เรียนมีการเรียนรู้จากการสร้างสิ่งที่มีความหมายกับตนเอง ผู้สอนจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ดำเนินกิจกรรมการเรียนด้วยตนเองโดยการลงมือปฏิบัติหรือสร้างงานที่ตนเองสนใจ ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้สัมผัสและแลกเปลี่ยนความรู้กับสมาชิกในกลุ่มดังนั้นการสอนลักษณะนี้จะเน้นการสอนโดยให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้
6) การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน การวัดผลการ (Measurement) หมายถึง กระบวนการหาปริมาณ หรือจำนวนของสิ่งต่างๆโดยใช้เครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่ง ผลจากการวัดจะออกมาเป็นตัวเลข หรือสัญลักษณ์ เช่น นายแดงสูง 180 ซม. (เครื่องมือ คือ ที่วัดส่วนสูง) วัตถุชิ้นนี้หนัก 2 ก.ก (เครื่องมือ คือ เครื่องชั่ง)
การทดสอบการศึกษา หมายถึง กระบวนการวัดผลอย่างหนึ่งที่กระทำอย่างมีระบบเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบความสามารถของบุคคล โดยใช้ข้อสอบหรือคำถามไปกระตุ้นให้สมองแสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ออกมาการประเมินผล (Evaluation) หมายถึง การตัดสิน หรือวินิจฉัยสิ่งต่าง ๆ ที่ได้จากการวัดผลเช่น ผลจากการวัดความสูงของนายแดงได้ 180 ซม. ก็อาจประเมินว่าเป็นคนที่สูงมาก ผลจากการชั่งน้ำหนักของวัตถุชิ้นหนึ่งได้ 2 ก.ก ก็อาจจะประเมินว่าหนัก - เบา หรือ เอา- ไม่เอา
7) สัมฤทธิ์ผลของนักเรียน ผลที่เกิดจากกระบวนการเรียนการสอนที่จะทำให้นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และสามารถวัดได้โดยการแสดงออกมาทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย
องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนของคลอสเมียร์และริปเปิล แสดงดังภาพประกอบ
ระบบการเรียนการสอนของนิร์ค และเยนตรี (Knirk; & Gentry. 1971)ได้กำหนดองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนเป็น 6 ส่วน คือ
1. การกำหนดเป้าหมาย เป็นการกำหนดเป้าหมายของการสอนไว้อย่างกว้าง ๆ
2. การวิเคราะห์กิจกรรม เป็นการวิเคราะห์งานต่าง ๆ ที่จะต้องทำโดยการย่อยเป้าหมายของการสอนออกเป็นจุดประสงค์ของการสอนเพื่อให้มีความละเอียดและชัดเจนยิ่งขึ้น
3. การกำหนดกิจกรรม เป็นการกำหนดกิจกรรมให้เป็นหมวดหมู่ และเลือกเอาเฉพาะกิจกรรมที่มีความเหมาะสมที่สุด
4. การดำเนินการสอน เป็นขั้นของการนำเอาแผนการที่วางไว้ไปสอนในชั้นเรียน ผู้สอนจำเป็นต้องควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
5. การประเมินผล เป็นการประเมินผลการดำเนินงานทั้งหมดของระบบ เพื่อให้ทราบจุดดีและจุดอ่อนที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข
6. การปรับปรุงแก้ไข เป็นขั้นของการนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลไปแก้ไขจุดอ่อนของระบบการเรียนการสอนเพื่อจะทำให้เป็นระบบการเรียนการสอนที่มีความเหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนของเนิร์คและเยนตรี แสดงดังภาพประกอบ 1
ซีลส และกลาสโกว (Seels; & Glasgow. 1990) ไดเสนอการจัดระบบการเรียน
การสอน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. การวิเคราะหปญหา (Problem Analysis) เปนการพิจารณาวาเกิดปญหาอะไร
ในการเรียนการสอนโดยผานการรวบรวมและเทคนิคการประเมินและระบุสิ่งที่เปนปญหา
2. วิเคราะหการสอนและกิจกรรม (Task and Instructional Analysis) เปนการ
รวบรวมขอมูลและวิเคราะหขอกําหนดดานเจตคติเพื่อกําหนดสิ่งที่ไดเรียนมากอน
3. การกําหนดวัตถุประสงคและแบบทดสอบ (Objective and Tests) เปนการ
กําหนดวัตถุประสงคเชิงพฤติกรรมและแบบทดสอบอิงเกณฑ
4. กลยุทธการเรียนการสอน (Instructional Strategy) เปนการตัดสินใจเกี่ยวกับ
กลยุทธและองคประกอบดานการเรียนการสอน
5. การตัดสินใจเลือกสื่อการสอน (Media Decision) เปนการเลือกสื่อการเรียน
การสอนและวิธีการใชเพื่อทําใหการเรียนการสอนบรรลุผล
6. การพัฒนาการสอน (Materials Development) เปนการวางแผนสําหรับ
ผลผลิต การพัฒนาวัสดุ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใชในการเรียนการสอน
7. การประเมินผลยอยระหวางเรียน (Formative Evaluation) เปนการ
ประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน รวบรวมขอมูล และตรวจสอบพัฒนาการของผูเรียน
8. การนําไปใชและบํารุงรักษา (Implementation Maintenance) เปนการ
นําไปใชเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
9. การประเมินผลรวมภายหลังการเรียน (Summative Evaluation) เปนการ
พิจารณาประเมินผลวาผานเกณฑที่กําหนดหรือไม
10. การเผยแพรและขยายผล (Dissemination Diffusion) เปนขั้นของการจัดการ
ใหมีการเผยแพร ขยายผลนวัตกรรมการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น
องคประกอบของระบบการเรียนการสอนของซีลสและกลาสโกว
1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention)
2. บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective)
3. ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knoeledge)
4. นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information)
5. ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
6. กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response)
7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
8. ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance)
9. สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6. การปรับปรุงแก้ไข เป็นขั้นของการนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลไปแก้ไขจุดอ่อนของระบบการเรียนการสอนเพื่อจะทำให้เป็นระบบการเรียนการสอนที่มีความเหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนของเนิร์คและเยนตรี แสดงดังภาพประกอบ 1
การเรียนการสอนของซีลสและกลาสโกว (Seels & Glasgow Model)
ซีลส และกลาสโกว (Seels; & Glasgow. 1990) ไดเสนอการจัดระบบการเรียน
การสอน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. การวิเคราะหปญหา (Problem Analysis) เปนการพิจารณาวาเกิดปญหาอะไร
ในการเรียนการสอนโดยผานการรวบรวมและเทคนิคการประเมินและระบุสิ่งที่เปนปญหา
2. วิเคราะหการสอนและกิจกรรม (Task and Instructional Analysis) เปนการ
รวบรวมขอมูลและวิเคราะหขอกําหนดดานเจตคติเพื่อกําหนดสิ่งที่ไดเรียนมากอน
3. การกําหนดวัตถุประสงคและแบบทดสอบ (Objective and Tests) เปนการ
กําหนดวัตถุประสงคเชิงพฤติกรรมและแบบทดสอบอิงเกณฑ
4. กลยุทธการเรียนการสอน (Instructional Strategy) เปนการตัดสินใจเกี่ยวกับ
กลยุทธและองคประกอบดานการเรียนการสอน
5. การตัดสินใจเลือกสื่อการสอน (Media Decision) เปนการเลือกสื่อการเรียน
การสอนและวิธีการใชเพื่อทําใหการเรียนการสอนบรรลุผล
6. การพัฒนาการสอน (Materials Development) เปนการวางแผนสําหรับ
ผลผลิต การพัฒนาวัสดุ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใชในการเรียนการสอน
7. การประเมินผลยอยระหวางเรียน (Formative Evaluation) เปนการ
ประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน รวบรวมขอมูล และตรวจสอบพัฒนาการของผูเรียน
8. การนําไปใชและบํารุงรักษา (Implementation Maintenance) เปนการ
นําไปใชเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
9. การประเมินผลรวมภายหลังการเรียน (Summative Evaluation) เปนการ
พิจารณาประเมินผลวาผานเกณฑที่กําหนดหรือไม
10. การเผยแพรและขยายผล (Dissemination Diffusion) เปนขั้นของการจัดการ
ใหมีการเผยแพร ขยายผลนวัตกรรมการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น
องคประกอบของระบบการเรียนการสอนของซีลสและกลาสโกว
ระบบการเรียนการสอนของ(Robert Gange Model)
โรเบิร์ต กาเย่ (Robert Gange') ได้นำเอาแนวแนวความคิด 9 ประการ มาใช้ประกอบการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้บทเรียนที่เกิดจากการออกแบบในลักษณะการเรียนการสอนจริง โดยยึดหลักการนำเสนอเนื้อหาและจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หลักการสอนทั้ง 9 ประการได้แก่1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention)
2. บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective)
3. ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knoeledge)
4. นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information)
5. ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
6. กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response)
7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
8. ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance)
9. สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น